
ทุกคนก็คงรู้กันดีอยู่แล้วว่า รถทุก ๆ คัน ไม่ว่าจะรถใหญ่ หรือรถเล็ก ก็ต้องมี พ.ร.บ. ต่อ พ.ร.บ. ไม่ให้ขาด แต่บางคนก็มองว่าคงไม่เป็นอะไรหรือเปล่า ขาดแค่ปี สองปีเอง หรือบางคนอาจจะมองว่าไม่จำเป็นเพราะว่า ไม่ได้ใช้รถขับขี่ไปไหนไกล แต่!!! คุณรู้หรือไม่ว่า พ.ร.บ. สำคัญมากกว่าที่คุณคิด และสามารถช่วยคุณได้มากกว่าที่คุณคาดไว้ ! แล้ว พ.ร.บ. สำคัญอย่างไรบ้าง มาดูกันเลย!
1. ถ้าเราไม่มี พ.ร.บ. เมื่อเราเป็นฝ่ายผิด ต้องจ่ายค่ารักษาให้คู่กรณีเอง
เป็นเหตุการณ์ที่เราไม่ได้คาดคิดว่าจะเกิด เพราะว่าเราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าใน 1 วัน เราจะเจอกับเหตุการณ์ หรือต้องขับรถไปที่ไหนบ้าง ดังนั้น การเจอกันสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด อาจจะเกิดขึ้นได้ และเหตุการณ์ หรืออุบัติเหตุตามท้องถนนต่าง ๆ อาจทำให้ทั้งเรา หรือในกรณีมีคู่กรณี บาดเจ็บ และเสียเวลา โอกาสในการทำงานกันทั้งคู่ และอาจมีอาการเจ็บป่วยตามมา ซึ่งอาจทำให้เสียค่าใช้จ่ายในระยะยาว ซึ่งเราอาจจะต้องช่วยคู่กรณีรับผิดชอบ ดังนั้น! การที่รถของเรามี พ.ร.บ. จะดีที่สุด เพราะว่าจะช่วยคุ้มครองรถ และตัวคุณเองได้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
2. ถ้าเราไม่มี พ.ร.บ. กรณีบาดเจ็บเอง ต้องจ่ายค่ารักษาเอง
อ้างอิงจากข้อข้างบน หากเราขับรถไปไหนในเวลาที่เร่งรีบ หรือจะเวลาไปเที่ยว ไปธุระที่ต่าง ๆ อาจจะมีความรีบร้อนตามเวลา ทำให้เราขับขี่โดยที่ไม่ทันได้คาดคิดว่า จะเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับตัวเอง อาจจะเกิดเพียงเล็กน้อย หรือมากกว่าที่เราคิด แต่หากเกิดแล้ว มีอะไรคุ้มครองเราจะดีกว่าไหม? เพราะกรณีบาดเจ็บในบางครั้งอาจจะทำให้เราไม่สามารถเดินทางไปทำงานได้ตามปกติ หรืออาจจะทำให้เราเสียโอกาสในการท่องเที่ยว หรือทำธุระในบางครั้ง ดังนั้น นี่จึงเป็นการเลือกที่ดีอีกทางหนึ่ง และเสียเวลาไปต่อ พ.ร.บ. เพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้นเอง!
3. ไม่ได้รับวงเงินกรณีพิการหรือเสียชีวิต
เหตุการณ์ข้างต้น คงพออ้างอิงได้เบื้องต้นแล้วว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ และทุกวันย่อมมีความเสี่ยงที่เข้ามา และเราไม่สามารถบังคับให้เกิด หรือไม่เกิดได้ บางทีอาจส่งผลกระทบถึงตัวเราทางร่างกาย จิตใจ หรือถึงชีวิต ทำให้เราไม่มีโอกาสได้สานต่อโอกาส หรือสิ่งต่าง ๆ ที่อยากทำ ดังนั้น การต่อ พ.ร.บ. จึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ และไม่ละเลยแม้เป็นเพียงแค่ 1 ปัจจัย
4. โดนเรียกค่าปรับไม่เกิน 10,000 บาท
ต่อเนื่องมาจากที่รถเราไม่มี พ.ร.บ. ผลพวงต่อมาก็คือ รถเราจะไม่ถูกกฎหมายไปด้วย ดังนั้นการขับขี่บนท้องถนน หรือจะในตรอกซอกซอย ก็ถือว่าผิดกฎหมายและเป็นการฝ่าฝืนกฎ หากพบเจอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ หรือโดนบันทึกภาพโดยกล้องวงจรปิด ผู้ขับขี่ก็ต้องจ่ายค่าปรับจำนวนเงินสูงสุดที่ 10,000 บาท ต่อครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเสี่ยงเพราะว่า เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า เรามีความจำเป็นต้องใช้เงินที่จ่ายไปเป็นค่าปรับแล้วหรือไม่ ดังนั้น การป้องกันไว้แต่แรก ย่อมดีกว่าการมาแก้ปัญหาทีหลังอยู่แล้ว เริ่มเห็นกันแล้วหรือยังว่า พ.ร.บ. สำคัญมากขนาดไหน
5. ไม่สามารถต่อภาษีได้ นอกจากนี้อาจะโดนค่าปรับ 1,000 บาท
ในกรณีนีอาจเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกัน หากเราไม่ต่อ พ.ร.บ. เป็นเวลานาน และทำให้รถขาดทั้ง ภาษี และ พ.ร.บ. และต้องดำเนินการจ่ายค่าปรับในภายหลัง ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีสักทีเดียว เพราะว่านอกจากจะเสียเวลาดำเนินการแล้ว อาจจะไม่ได้ใช้รถคันนั้นอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และต้องดำเนินการเรื่องใหม่ทั้งหมดตั้งแต่แรก แต่ถ้าเราหมั่นเตือนตัวเองในทุก ๆ ปี และต่อภาษี พ.ร.บ. ในทุก ๆ ปี ปัญหานี้ก็จะไม่เกิด
มาถึงตรงนี้ทุกคนก็คงรู้แล้วว่า พ.ร.บ. ของรถแต่ละคันสำคัญขนาดไหน ดังนั้น เราไม่ควรละเลย หรือเลื่อนเวลาการต่อ พ.ร.บ. ออกไปเรื่อย ๆ หากสะดวกเมื่อไหร่ก็ควรรีบเดินทางไปทันที เพราะจะช่วยให้การใช้ชีวิตในแต่ละวันของเรานั้นง่ายขึ้น และไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงเพิ่ม มีไว้ สบายใจที่สุดนะ J